“รายได้” ที่ลดลง คือธรรมชาติของวัยเกษียณอายุที่มีพละกำลังน้อง แต่กลับมีรายจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้น การพึ่งเงินออม หรือรายได้จากเงินบำนาญเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด
แม้พละกำลังของคนวัยเกษียณจะลดลง แต่รู้หรือไม่ว่าในวัยนี้ ยังสามารถมีรายได้เพิ่มขึ้นจากอีกหลายช่องทาง ทั้งสวัสดิการของรัฐฯ การมีปันผล ไปจนถึงรายได้จากช่องทางใหม่ๆ ที่อาศัยเพียงการต่อยอดของเงินทุนเท่านั้น
รายได้ จากสวัสดิการรัฐฯ
รายได้จากสวัสดิการรัฐฯ เป็นอีกหนึ่งช่องทาง ที่บุคคลวัยเกษียณสามารถเลือกรับได้ โดยสามารถเลือกรับจากช่องทางใดทางหนึ่งคือ เงินประกันสังคม หรือเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
-
รายได้ จากเงินประกันสังคม
สำหรับการมีรายได้บำนาญจากช่องทางนี้ จำเป็นต้องจ่ายเงินสมทบประกันสังคมไม่ต่ำกว่า 180 เดือน หรือ 15 ปี เป็นต้นไป โดยจะมีสิทธิรับเงินบำนาญชราภาพเป็นรายเดือนในอัตราร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย ที่ใช้เป็นเกณฑ์ในการคำนวณเงินสมทบ ก่อนความเป็นผู้ประกันตนจะสิ้นสุด โดยฐานเงินเดือนสูงสุดที่ใช้คิด คือ 15,000 บาท และจะได้เงินบำนาญเพิ่มขึ้นอีก 1.5% ทุกๆ 12 เดือน หรือ 1 ปี เมื่อจ่ายเงินสมทบมากกว่า 180 เดือนขึ้นไป ตัวอย่างเช่น จ่ายเงินสมทบครบ 25 ปี ก็จะได้รับบำนาญคิดเป็น 20% + (1.5% x 10 ปี) หรือเท่ากับ 32.5%
-
เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
คือรายได้ที่รัฐบาลให้กับผู้สูงอายุทุกคน มีเงื่อนไขคือ ไม่เคยได้รับสิทธิประโยชน์จากหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เช่น เงินบำนาญ บำนาญพิเศษ ซึ่งผู้สูงอายุจะได้รับเงินช่วยเหลือเป็นรายเดือนต่อเนื่อง จนกว่าจะเสียชีวิต โดยมีเกณฑ์ดังต่อไปนี้
▪ อายุ 60 – 69 ปี รับเงิน 600 บาท ต่อเดือน
▫ อายุ 70 – 79 ปี รับเงิน 700 บาท ต่อเดือน
▫ อายุ 80 – 89 ปี รับเงิน 800 บาท ต่อเดือน
▪ อายุ 90 ปีขึ้นไป รับเงิน 1,000 บาท ต่อเดือน
อาชีพเสริมเพิ่ม รายได้
ในช่วงวัยเกษียณ แม้พละกำลังจะลดลงกว่าในช่วงก่อนๆ แต่ยังไม่ถึงขั้นที่รายได้จากการทำงาน จะกลายเป็นศูนย์ทั้งหมด วัยนี้ยังสามารถประกอบอาชีพหลักจากทำงานในบริษัทเอกชน และอาชีพเสริมได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการเป็นที่ปรึกษา นักเขียน วิทยากรด้านการสอน ฯลฯ ที่ใช้พละกำลังไม่มาก รวมไปถึงการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ อย่างแฟรนไชส์ อสังหาริมทรัพย์ หรืออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน
สร้างรายได้จากการลงทุน
วัยเกษียณ แม้จะแบกรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้น้อย แต่ใช่ว่าห้ามลงทุนเสียทีเดียว โดยในวัยนี้ อาจเลือกลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ที่มีความเสี่ยงและความผันผวนต่ำ หรือเลือกลงทุนบนโอกาสที่มีการเติบโตสม่ำเสมอ ซึ่งขึ้นอยู่กับรูปแบบการจัดพอร์ตลงทุน และความสามารถในการแบกรับความเสี่ยงส่วนบุคคล
ตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ การถือครองอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน (IP) ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ที่ไม่ต้องลงแรงและเวลาในการบริหาร อาศัยเพียงเงินทุนเท่านั้น โดยอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน จะมอบความสะดวกสบายให้กับชีวิตวัยเกษียณที่มากกว่า มีความคล่องตัว และมีการจ่ายผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ ตามข้อตกลงของบริษัทที่เลือกลงทุน
-
𝐖𝐲𝐧𝐝𝐡𝐚𝐦 𝐆𝐫𝐚𝐧𝐝 𝐍𝐚𝐢 𝐇𝐚𝐫𝐧 𝐁𝐞𝐚𝐜𝐡 𝐏𝐡𝐮𝐤𝐞𝐭
ลงทุนคุ้มค่า ผลตอบแทนยั่งยืน | การันตีผลตอบแทนรวม 35%* | การันตีซื้อคืน 110%*
𝐖𝐲𝐧𝐝𝐡𝐚𝐦 𝐆𝐫𝐚𝐧𝐝 𝐍𝐚𝐢 𝐇𝐚𝐫𝐧 𝐁𝐞𝐚𝐜𝐡 𝐏𝐡𝐮𝐤𝐞𝐭 อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนรูปแบบใหม่ จาก 𝐂𝐈𝐒𝐒𝐀 𝐆𝐑𝐎𝐔𝐏 ที่เปิดให้ทุกคนสามารถร่วมเป็นเจ้าของโรงแรม 5 ดาวพรีเมียม ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 1 ล้านบาท* พรั่งพร้อมด้วยการบริการเหนือระดับ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
◾ พักเลือกได้ ทั้งแบบ Pool Access Rooms สำหรับคนเลิฟสระว่ายน้ำ / ห้อง Suites พื้นที่กว้างสบายใจ และ Deluxe Rooms มาตรฐานระดับ 5 ดาวพรีเมียม
◻ 10 สระว่ายน้ำแบบฟรีฟอร์ม ล้อมรอบโครงการ
◾ ห้องอาหารและบาร์*
◽ ห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่หนึ่งเดียวของหาดในหาน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร. 062-245-8656 | 062-245-9288
*เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทฯ กำหนด
