ปักหมุดอนาคต ทางเลือกการลงทุนของคนยุคใหม่

ที่ผ่านมาการวางแผนอนาคตของคุณเป็นอย่างไรกันบ้างครับ และเคยวางเป้าหมายการวางแผนการเงินกันบ้างไหมว่า มีเงินเท่าไหร่ถึงจะพอที่จะใช้ไปจนถึงบั้นปลายชีวิตได้ ซึ่งการวางแผนการเงินเป็นเรื่องสำคัญของคนยุคใหม่ โดยเฉพาะที่จะพูดถึงนั่นคือ ทางเลือกการลงทุนของนักลงทุนที่ควรเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ควรเป็นอย่างไร มาดูกันเลยครับ

วางแผนเกษียณเพื่อตัวเอง หนึ่งการลงทุนที่คนยุคใหม่มองข้ามไม่ได้แล้ว เนื่องจากประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ตั้งแต่ปี 2548 ขณะที่ สัดส่วนประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง จึงส่งผลให้ปี 2562 ประชากรผู้สูงวัยมีมากกว่าประชากรวัยเด็ก และที่ย ้ำให้เห็นชัดว่าการวางแผนเกษียณเป็นสิ่งสำคัญนั้น

เนื่องจากตัวเลขของกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561) พบว่า ประเทศไทยมีประชากรทั้งหมด 66.4 ล้านคน เฉพาะผู้สูงอายุ 10,670,000 คน โดยแบ่งเป็นผู้สูงอายุชาย 4,720,000 คน และผู้สูงอายุหญิง 5,950,000 คน ซึ่งจังหวัดที่มีประชากรผู้สูงอายุมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ มากกว่า 1 ล้านคน รองลงมา นครราชสีมา เชียงใหม่ ขอนแก่น และอุบลราชธานี
ดังนั้น การวางแผนเกษียณตั้งแต่ล่วงหน้าไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณมั่นใจว่า การเงินในอนาคตจะมั่งคั่งมากเท่านั้น แต่โอกาสในการเลือกการลงทุนที่มีผลตอบแทนจะยิ่งเพิ่มโอกาสในการใช้เงินต่อเงินมากกว่า แทนที่จะใช้เงินเก็บไปกับรายจ่ายที่มีแต่จะลดลงจนสุดท้ายอาจเป็นไปได้ที่จะหมดก่อนถึงวันเสียชีวิตก็เป็นได้

ขณะที่รูปแบบการลงทุนแม้จะมีตัวเลือกให้เลือกมากมาย แต่การสร้างผลตอบแทนระยะยาวคงหนีไม่พ้น คือ การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นคอนโด บ้าน ทาวเฮ้าส์ ไปจนถึง Investment Property ที่นักลงทุนทั้งรุ่นใหม่และมืออาชีพต่างคุ้นเคยกันแล้ว และเมื่อถามถึงผลตอบแทนระยะยาว ถือได้ว่าการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นรูปแบบการลงทุนที่ตอบโจทย์กลุ่มนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่คุ้มค่า ซึ่งนักลงทุนอาจคุ้นเคยรายได้แบบรายเดือนและรายปี แต่หากเลือกลงทุนในรูปแบบการลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนโดยเฉพาะ (IP) จะได้ผลตอบแทนที่มากกว่าเดิม ยกตัวอย่างโครงการ “Wyndham Grand Nai Harn Beach Phuket” ของ CISSA GROUP ตอบโจทย์กลุ่มนักลงทุนที่สนใจเรื่องผลตอบแทนและสิทธิประโยชน์มากมาย รวมถึงยังเป็น
โรงแรมที่สามารถขายต่อ หรือปล่อยเช่ารายวันได้

เนื่องจาก CISSA GROUP ถือครอง 4 ตึก D, J, K, L ซึ่งเป็นทรัพย์สินของบริษัทที่มีการอนุญาตเป็นโรงแรมตั้งแต่แรก และมอบอำนาจให้บริษัทงานเช่า (CNH) เป็นผู้บริหาร ส่วนห้องชุด 8 ตึกที่เหลือ 248 ห้อง เป็นอาคารชุดเพื่อการค้าประกอบกิจการโรงแรม ซึ่งลูกบ้านหรือนักลงทุนจะต้องเซ็นต์สัญญาบริหารงานเช่า และหนังสือมอบอำนาจเพื่อยินยอมให้ CNH บริหารงานเช่าด้วยเช่นกัน
อีกทั้ง ห้องชุดสามารถบริหารเป็นโรงแรมได้ เนื่องจากทาง CISSA GROUP ได้มีการประชุมคณะกรรมการ EIA เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา และได้มีการอนุมัติแล้วว่า เปลี่ยนจากอาคารชุดเพื่ออยู่อาศัยเป็นอาคารชุดเพื่อการค้าประกอบกิจการโรงแรม (อนุมัติในที่ประชุมเรียบร้อย และกำลังรอผู้ว่าราชการจังหวัดเซ็นต์อีกครั้ง)

อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกวันนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั้งในกรุงเทพฯ และตามหัวเมืองต่าง ๆ เช่น เชียงใหม่ ชลบุรี และภูเก็ต ยังคงเป็นจังหวัดที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งผลพวงมาจากอัตราการเติบโตของประชากรในประเทศที่เพิ่มขึ้น รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ยังคงเดินทางเข้าพักและท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อชมธรรมชาติที่สวยงาม เช่น ทะเล ภูเขา ฯลฯ และนี่คือ ทางเลือกของนักลงทุนยุคใหม่ที่ต้องติดตามและศึกษาด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ให้รู้ลึก รู้จริง ทั้งข้อดีและข้อเสีย ความเสี่ยงที่จะได้รับ เพื่อจะได้เป็นการสร้างความมั่นคงทางการเงินในช่วงบั้นปลายชีวิตที่มีแต่เงินให้ใช้และยังให้เงินทำงานแทนโดยได้ชีวิตอิสระตามที่ต้องการอีกด้วย