8 ปีที่ขาดทุน มาลงทุนกับซิซซาสิ! มีแต่ได้!!

สืบเนื่องจากเสถียรภาพของประเทศไทยที่ไม่มั่นคงจากการรัฐประหารตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งสื่อต่างชาติต่างให้ความสนใจในเหตุการณ์ดังกล่าว และเฝ้าจับตามองเรื่อยมา อีกทั้งประเทศไทยยังเผชิญกับความรุนแรงของภาวะเศรษฐกิจถดถอยเรื่อยมา จนในที่สุดเกิดสภาวะเงินเฟ้อที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังประสบกับภาวะการอ่อนค่าของเงินบาทอีกด้วย

จากสถานการณ์ที่ยกตัวอย่าง จะเห็นได้ชัดว่า การเมืองไทยอยู่ในภาวะลุ่มๆ ดอนๆ มาตลอด 8 ปีที่ผ่านมา
ทั้งจากปัจจัยภายในประเทศและปัจจัยภายนอกประเทศก็ตาม ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยโดยภาพรวม
อีกทั้งยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ไม่กล้าลงทุนเพิ่ม แม้หุ้นจะมีแนวโน้ม ขาลงก็ตาม โดยเห็นได้จากปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

และเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์รับคำร้องจากฝ่ายค้านให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่ และแต่งตั้งให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีมาปฏิบัติหน้าที่รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี

ทำให้ตลาดหุ้นไทย วันพฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม 2565 ถูกปรับลดลง 2.02 จุด หรือคิดเป็น 0.12% คือมูลค่าการซื้อขาย 82,621.35 ล้านบาทซึ่งจะเห็นได้ว่า การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองส่งผลกระทบในทุกภาคส่วน ในอนาคตเรายังต้องเจอกับความท้าทายในรูปแบบอื่น ซึ่งเหล่านักลงทุนอาจจะต้องเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดดังกล่าว ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หนึ่งในสถานการณ์นั้น คือการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้สภาวะเศรษฐกิจโลกหยุดชะงักลงอย่างเห็นได้ชัด